"คนไทยป่วยเบาหวานเพิ่มปีละ 1 แสนคน ไม่ใช่แค่สูงวัย อายุเฉลี่ยน้อยลง"
เบาหวานมี 2 ประเภท
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 ประเภทพึ่งอินซูลิน ( Insulin Dependent Diabetes Mellitus, IDDM ) ผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ มักจะพบในคนอายุน้อย หรือเกิดอาการก่อนอายุ 30 ปี โดยเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ เซลล์ตับอ่อนถูกทำลายโดยภูมิคุ้มกันตัวเองผู้ป่วยมักจะมีอาการ น้ำหนักลดลง หิวน้ำบ่อยๆ ปัสสาวะบ่อยๆ มีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากร่ายกายเปลี่ยนจากไขมันและโปรตีนในร่างกาย มาใช้เป็นพลังงาน หากไม่รักษาอาจหมดสติได้และเป็นอันตรายถึงชีวิต การรักษาแพทย์จะใช้วิธีการฉีดฮอร์โมนอินซูลินให้กับผู้ป่วย และให้ควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วย
2.โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประเภทไม่พึ่งอินซูลิน ( Non-Insulin Dependent Diabetes Mellitus, NIDDM) เบาหวานชนิดนี้ มักพบในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 30 ปี โดยเฉพาะผู้ที่อ้วน สามารถพบได้บ่อยกว่าโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีสาเหตุ เกิดจากการที่ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินขึ้นเองได้ แต่อินซูลินไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ไม่เพียงพอในร่างกายหรือเซลล์เอง ที่ไม่ค่อยตอบสนองกับอินซูลิน ทั้งที่ผลิตอินซูลินได้เป็นปกติ โดยผู้ป่วยจะมีระดับอินซูลินปกติหรือสูง สาเหตุที่เป็นเบาหวานเพราะมีภาวะต้านต่ออินซูลิน การรักษาผู้ป่วยประเภทนี้ แพทย์จะแนะนำผู้ป่วยควบคุมอาหาร ให้ออกกำลังกาย จะช่วยในการควบคุมโรคเบาหวานได้
ระดับน้ำตาลในเลือดในการตรวจหาเบาหวาน
| ระดับน้ำตาล | อาการ |
|---|---|
| ก่อนอาหาร มีค่า 100 – 125 มล./ดล. | เสี่ยงเป็นเบาหวาน |
| ก่อนอาหาร มีค่า ≥126 มล./ดล. | เป็นเบาหวาน |
| หลังอาหาร มีค่า ≥200 มล./ดล. | เป็นเบาหวาน |
Wheatgrass+
หัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งของ Wheatgrass+ คือความสามารถในการดักจับน้ำตาลในลำไส้เล็ก จากนั้นค่อยๆปล่อยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายหลายส่วนด้วยกัน
- การที่น้ำตาลเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดไม่พุ่งสูงขึ้นทันที จึงส่งผลต่อการทำงานของตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ในการผลิตอินซูลิน ทำให้ตับอ่อนไม่ต้องทำงานหนักในการผลิตอินซูลินครั้งละมากๆ และมีเวลาฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงได้
- ทำให้รู้สึกอิ่มนาน เพราะเมื่อร่างกายต้องใช้เวลานานขึ้นในการดูดซึมน้ำตาลไปเป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะได้รับรวดเดียวและส่วนที่เหลือก็จะถูกจัดเก็บในรูปของพลังงานสำรอง